30 สิงหาคม 2564

เหตุผลที่ เจ้าหญิงไดอาน่า ใช้กระเป๋าปิดหน้าอก จนกลายเป็นเทรนด์ Cleavage Bag

 

เหตุผลที่ เจ้าหญิงไดอาน่า ใช้กระเป๋าปิดหน้าอก จนกลายเป็นเทรนด์ Cleavage Bag






เผยความจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ เจ้าหญิงไดอาน่า และเทรนด์อันโด่งดัง Cleavage Bag ที่พระองค์จะทรงทำแบบนี้เมื่อก้าวลงจากรถเสมอ

เจ้าหญิงไดอาน่าถือเป็น “ผู้หญิงที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลก” พระองค์ทรงรู้วิธีโพสต์ท่าอย่างเป็นธรรมชาติและไม่มองไปที่กล้อง ซึ่งหนึ่งในคลังภาพที่มีชื่อเสียงคือการถือกระเป๋าคลัทช์ใบเล็กๆ เอาไว้และนำมาปิดระหว่างหน้าอก ขณะกำลังก้าวลงจากรถ โดยนักออกแบบผู้อยู่เบื้องหลังคลัทช์เหล่านี้คือ Anya Hindmarch เธอเผยว่า “เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเป็นลูกค้าประจำ พระองค์จะมาหาเราโดยไม่มีบอดี้การ์ดหรือความจุกจิกใดๆ”



Cleavage Bag ซึ่งเป็นคำนิยามของกระเป๋าเหล่านั้นเมื่อเจ้าหญิงไดอาน่าถือมันขึ้นมา ได้กลายเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ และต่างตั้งข้อสันนิษฐานกันว่าพระองค์ทรงทำเช่นนั้นเพื่อความสุภาพเรียบร้อย แม้ฉลองพระองค์จะมีความเซ็กซี่มากหรือน้อย แต่การปรากฏพระองค์ต่อหน้าสาธารณชนและต้องก้มต่ำเมื่อลงจากรถ ก็ควรเซฟตัวเองจากเหล่าปาปารัสซี่ด้วยเช่นกัน รวมถึงการเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์อังกฤษในขณะนั้น การวางพระองค์อย่างเหมาะสมเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงเป็นสิ่งแรก



นี่เป็นวิธีที่สาวๆ สามารถทำตามได้ หากคุณใส่ชุดที่คอกว้างและไม่มั่นใจเมื่อต้องก้มลงต่ำ ไม่ว่าจะใช้คลัทช์หรือมือปิดไว้ก็ช่วยให้ดูสุภาพขึ้น และที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเลือกใช้คลัทช์นับว่าไหวพริบของพระองค์ดีเยี่ยม ทั้งยังสื่อถึงความเป็นแฟชั่นไอคอนได้อย่างชัดเจน เพราะผู้หญิงในยุคนั้นต่างตามล่าหาคลัทช์จาก Anya Hindmarch กันเป็นแถว

เหตุผลที่ เจ้าหญิงไดอาน่า ใช้กระเป๋าปิดหน้าอก จนกลายเป็นเทรนด์ Cleavage Bag

10 เรื่องควรรู้ของเจ้าหญิงไดอาน่า

 

10 เรื่องควรรู้ของเจ้าหญิงไดอาน่า



10 เรื่องควรรู้ของเจ้าหญิงไดอาน่า ก่อนชมหนัง Diana




1. 1 กรกฎาคม 1961 ไดอาน่า สเปนเซอร์ ถือกำเนิดขึ้นเป็นธิดาคนที่ 3 ของเอิร์ธ แห่งสเปนเซอร์ที่ 8 และนางฟรานเซลล์ แซน คิดส์


2. 29 กรกรฎาคม 1981 คุณหญิงไดอาน่า สเปนเซอร์ พี่เลี้ยงเด็กวัย 20 ปี เข้าพิธีอภิเสกสมรสกับเจ้าฟ้าชายชารล์ส มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ท่ามกลางสายตาพยานทั่วโลกกว่า 750 ล้านคน หลังพิธีอภิเษกคุณหญิงไดอาน่า ได้ดำรงยศ เจ้าฟ้าหญิงไดอาน่า ว่าที่ราชินีแห่งอังกฤษ

3. 21 มิถุนายน 1982 เจ้าฟ้าหญิงไดอาน่าได้ให้กำเนิดพระโอรสองค์แรก เจ้าชายวิลเลี่ยม ในช่วงที่พระองค์กำลังพระชวลด้วยโรคบูลิเมีย และอนาเลคเซีย และเป็นช่วงกับที่สมเด็จพระราชินีราถทรงขอร้องให้เหล่าสื่อมวลชนลดความสนใจในการทำข่าวซึ่งกำลังสร้างความเครียดให้กับ เจ้าฟ้าหญิงไดอาน่า เป็นอย่างมาก

4. 13 กันยายน 1984 เจ้าชายแฮรี่ พระโอรสองค์ที่สองได้ถือกำเนิดขึ้น ในช่วงที่ชีวิตสมรสของเจ้าฟ้าหญิงไดอาน่ากำลังมีความสุข เจ้าฟ้าชายชารล์สทรงผิดหวังที่ได้พระโอรสแทนที่จะเป็นพระธิดา จึงหันกลับไปหาชู้รักเก่า คามิลล่า ปาร์กเกอร์ โบลล์

5. เมษายน 1992 หนังสือ "เรื่องจริงของไดอาน่า" โดยแอนดรูว์ มอร์ตันได้รับการตีพิมพ์ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตสมรสของที่แตกละเอียดของเจ้าฟ้าหญิงไดอาน่า รวมถึงยืนยันว่า เจ้าฟ้าหญิงไดอาน่าเคยปลงพระชนม์ตัวเองในขณะตั้งครรภ์เจ้าชายวิลเลี่ยม

6. 9 ธันวาคม 1992 เจ้าฟ้าหญิงไดอาน่าและเจ้าฟ้าชายชารล์สตัดสินใจแยกกันอยู่อย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่มีแผนการหย่าขาดจากกัน

7. 1994 หนังสือ "เจ้าหญิงในห้วงความรัก" ได้รับการตีพิมพ์ โดยมีเนื้อหาถึงความสัมพันธ์ลึกซึ่งถึง 5 ปีของเจ้าฟ้าหญิงไดอาน่ากับพันตรีเจมส์ เฮวิต ครูสอนขี่ม้า


8. 20 พฤษจิกายน 1995 เจ้าฟ้าหญิงไดอาน่า ทรงให้สัมภาษณ์กับรายการพาโนรามาทางสถานีโทรทัศน์ BBC ทรงยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับพันตรีเจมส์ เฮวิตจริง ทรงอ้างถึงคามิลลาว่า "มีคนสามคนอยู่ในชีวิตสมรสนี้ ดังนั้นมันจึงค่อนข้างน่าอึดอัด" ทรงปรารถนาที่จะเป็นราชินีในหัวใจของประชาชน" และให้ความเห็นกับเจ้าฟ้าชายชารล์สต่อการขึ้นครองราชย์ว่า "ฉันรู้สึกว่าหน้าที่นี้เป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่ บทบาทใหม่จะนำข้อจำกัดมากมายมาสู่พระองค์ และฉันไม่ทราบว่าพระองค์จะปรับตัวให้เข้ากับตำแหน่งนี้ได้อย่างไร" หลังรายการโทศทัศน์นี้ออกอากาศ ผลสำรวจคนอังกฤษกว่า 86 เปอร์เซ็นเห็นว่าราชสำนักทำไม่ถูกกับเจ้าฟ้าหญิงไดอาน่า

9. 28 สิงหาคม 1996 เจ้าฟ้าหญิงไดอาน่าและเจ้าฟ้าชายชารล์ส ลงนามหย่าขาดจากัน โดยเจ้าฟ้าหญิงไดอาน่าจะดำรงพระยศ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พร้อมเงินเลี้ยงดู 560 ล้านบาท

10. 31 สิงหาคม 1997 ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ สิ้นพระชนม์จากอุบิตเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยพิธีพระศพถูกจัดขึ้น ณ มหาวิหารเวสมินเตอร์ ประเทศอังกฤษ ท่ามกลางประชาชนกว่า 2.5 พันล้านคนร่วมส่งเสด็จ

 

สกู๊ปสัมภาษณ์ นาโอมิ วัตต์

ที่มา  ::    https://www.sanook.com/

https://ukvisaforthai.blogspot.com/2021/08/10.html



เปิดเรื่องราวเบื้องหลังแหวนหมั้นของ "เจ้าหญิงไดอาน่า" มูลค่ากว่า 1 แสนปอนด์

 

เปิดเรื่องราวเบื้องหลังแหวนหมั้นของ "เจ้าหญิงไดอาน่า" มูลค่ากว่า 1 แสนปอนด์

เปิดเรื่องราวเบื้องหลังแหวนหมั้นของ "เจ้าหญิงไดอาน่า" มูลค่ากว่า 1 แสนปอนด์

พระธำมรงค์หมั้นประดับแซฟไฟร์ของ ‘เจ้าหญิงไดอาน่า’ อันโด่งดัง มีผู้ทำลอกเลียนแบบขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน ขณะที่องค์ดั้งเดิม ได้ตกทอดเป็นทรัพย์สมบัติของ ‘ดัชเชสเคต แห่งเคมบริดจ์’ พระสุณิสาในพระองค์ หลังจากที่ ‘เจ้าชายวิลเลี่ยม ดยุคแห่งเคมบริดจ์’ ทรงใช้ขอดัชเชสเคตเสกสมรส ขณะทั้งสองพระองค์เสด็จเยือนเคนย่าในปี 2010 แต่ทำไมเจ้าหญิงไดอาน่าถึงโปรดให้พระธำมรงค์หมั้นประดับแซฟไฟร์มากกว่าเพชรนั้น เราจะพาไปหาคำตอบกัน

ดัชเชสเคต และเจ้าชายวิลเลี่ยมดัชเชสเคต และเจ้าชายวิลเลี่ยม
ใน ‘The Crown’ ซีรี่ส์ชื่อดังของ Netflix ได้ถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญหลังจากที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงขอเจ้าหญิงไดอาน่าอภิเษกสมรสอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือวันที่ ‘สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2’ พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พาเจ้าหญิงไดอาน่าไปทรงเลือกเพชรและเครื่องประดับ ซึ่งในวันนั้น เจ้าหญิงไดอาน่าได้ทรงเลือกแซฟไฟร์เป็นชิ้นที่พระองค์โปรดมากที่สุด

หากใครได้ชมซีซั่น 4 ตอนที่ 3 คงจะจำฉากหลังจากที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีพระราชดำรัสถึงเรื่องการอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงไดอาน่ากันได้ นั่นก็คือฉากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงนำอัญมณีนานาชนิดมาให้เจ้าหญิงไดอาน่าเลือก ซึ่งส่วนใหญ่ของเครื่องประดับเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นมรดกตกทอดกันมา

ภาพจากซีรีส์เรื่อง The Crownภาพจากซีรีส์เรื่อง The Crown
อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงไดอาน่ากลับไม่ได้ทรงเลือกเครื่องประดับเก่าแก่หรืออัญมณีล้ำค่าที่ตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่น แต่พระองค์ทรงเลือกพระธำมรงค์ประดับแซฟไฟร์ ทำให้สมเด็จพระราชินีนาถทรงตั้งคำถามเป็นอย่างมาก เพราะแหวนวงนี้เป็นหนึ่งในชิ้นที่มีขาย ณ ร้านเครื่องประดับ Garrard & Co ในกรุงลอนดอน ทำให้ประชาชนคนอื่นก็มีสิทธิ์ที่จะซื้อแหวนหน้าตาเหมือนพระองค์ได้เช่นกัน

เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถมีพระราชดำรัสถามถึงเหตุผลที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเลือกพระธำมรงค์องค์นี้ พระองค์ก็ทรงให้คำตอบอย่างเรียบง่ายว่า “เพราะแหวนวงนี้ทำให้หม่อมฉันนึกถึงแหวนหมั้นของแม่ และสีของแซฟไฟร์ยังเหมือนกับสีดวงตาของหม่อมฉันด้วย”


ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แซฟไฟร์ขนาด 12 กะรัตเม็ดนี้ เปรียบเหมือนตัวแทนพระเนตรของเจ้าหญิงไดอาน่าได้เป็นอย่างดี ซึ่งพระองค์ยังได้ทรงพระธำมรงค์องค์นี้ เข้าคู่ไปกับฉลองพระองค์สูทสีน้ำเงินขณะทรงฉายพระรูปงานหมั้นอย่างเป็นทางการกับเจ้าชายแห่งเวลส์

สมเด็จพระราชินีนาถและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อาจทรงเคยคาดว่าเจ้าหญิงไดอาน่าจะทรงเลือกพระธำมรงค์ที่เป็นมรดกของราชวงศ์ แต่พระธำมรงค์ประดับแซฟไฟร์องค์นี้นั้นก็มีความพิเศษไม่แพ้กันเลยทีเดียว

แหวนประดับแซฟไฟร์ล้อมเพชรแหวนประดับแซฟไฟร์ล้อมเพชร
จากข้อมูลล่าสุด ยังระบุอีกว่าในปี 1981 นั้น พระธำมรงค์ทองคำขาวประดับแซฟไฟร์ขนาด 12 กะรัต ล้อมด้วยเพชรทรงกลม 14 เม็ด มีมูลค่าราว 28,500 ปอนด์ (ประมาณ 1,286,980 บาท) ซึ่งหากเทียบกับในปัจจุบันแล้ว พระธำมรงค์องค์นี้จะมีมูลค่าเทียบเท่า 123,000 ปอนด์ (ประมาณ 55,543,000 บาท) เลยทีเดียว



รำลึก 24 ปีการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า

 

รำลึก 24 ปีการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า
















รำลึก 24 ปีการสิ้นพระชนม์ของ เจ้าหญิงไดอาน่า



The People’s Princess หรือ “เจ้าหญิงของปวงชน” คือฉายาที่พระองค์ทรงได้รับ ทว่าตลอดพระชนม์ชีพที่สั้นเพียง 36 ปี เจ้าหญิงไดอาน่าหาได้ทรงมีชีวิตชวนฝันแบบเจ้าหญิงในเทพนิยาย พระองค์ทรงผ่านประสบการณ์เลวร้ายมากมาย ทรงทำผิดพลาดหลายอย่างเฉกเช่นสามัญชนทั่วไป ทว่าท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวมากมายที่เกี่ยวข้องกับพระองค์  โลกจะจดจำเจ้าหญิงไดอาน่าในฐานะพระมารดาผู้อุทิศตนให้รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษถึงสองพระองค์  และเจ้าหญิงผู้ทรงงานการกุศลเพื่อผู้ด้อยโอกาสในสังคม เช่น เด็กกำพร้า เหยื่อกับระเบิดในโลกที่สาม และผู้ป่วยโรคเอดส์ เป็นต้น


รำลึกวาระครบ 24 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่าเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1997 ด้วยภาพยนตร์สารคดี Diana: In Her Own Words

เด็กหญิงไดอาน่านั่งบนกระเป๋าเดินทาง ก่อนไปเข้าโรงเรียนประจำที่ Riddlesworth Hall ในฤดูใบไม้ร่วง ปี 1970 ด้วยความโศกเศร้าที่ต้องอยู่ห่างไกลบ้าน ไดอานาพูดกับผู้เป็นพ่อว่า “ถ้าพ่อรักหนู พ่อจะไม่ทิ้งหนูไว้ที่นี่” ภาพถ่ายโดย (Spen/AL), Camera Press, Redux


ย้อนหลังไปเมื่อปี 1991 ณ พระราชวังเคนซิงตัน ในกรุงลอนดอน เจ้าหญิงไดอาน่า ทรงบันทึกเทปสัมภาษณ์ลับชุดหนึ่ง พระองค์ตรัสถึงหลายเรื่องที่ทำให้เราเห็นภาพชีวิตที่หาได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของพระองค์ เช่น เมื่อผู้สัมภาษณ์กราบทูลให้ทรงเล่าถึงชีวิตวัยเด็ก พระองค์ทรงตอบว่า “เป็นชีวิตวัยเด็กที่ไม่มีความสุข ข้าพเจ้าจำตอนที่พ่อตบหน้าแม่ ข้าพเจ้าซ่อนอยู่หลังประตู แม่ร้องไห้”

การสัมภาษณ์ทำโดยพระสหายสนิทคนหนึ่งในนามของผู้สื่อข่าว แอนดรูว์ มอร์ตัน ซึ่งอยู่ระหว่างการเขียนหนังสือพระประวัติของพระองค์

พระองค์ตรัสตอนหนึ่งถึงสื่อมวลชนว่า “สื่อเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าทนไม่ไหว เพราะติดตามข้าพเจ้าไปทุกที่”

อีกตอนหนึ่ง เจ้าหญิงไดอาน่าตรัสถึงการอภิเษกสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เมื่อปี 1981 ว่า “ทรงให้ข้าพเจ้านั่งลง และตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘แต่งงานกับผมไหม’ ตอนนั้นข้าพเจ้าคิดว่า บ้าไปแล้วที่เราจะแต่งงาน มันช่างฟังดูเป็นเรื่องผู้ใหญ่เสียเหลือเกิน นั่นคือ ไดอาน่า คุณครูอนุบาล เรื่องทั้งหมดช่างน่าขัน”


ไดอาน่า เติบโตขึ้นท่ามกลางสุนัข แมว หนูแฮมสเตอร์ กระต่าย และม้า “ตอนเด็กๆ เธอรักสัตว์มาก” แม่ของไดอานาให้สัมภาษณ์ “เธอรักทุกอย่างที่ตัวเล็กและมีขนปุกปุย” ไดอานาฝึกขี่ม้าตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสี่ขวบ แต่หลังจากแขนหักเพราะตกม้า ครั้งหนึ่ง ความชื่นชอบนั้นก็ค่อยๆ ห่างหายไป ในภาพนี้ ไดอาน่าอุ้มหนูตะเภาในงานแสดงสัตว์เลี้ยงที่ Sandringham เมื่อปี 1972 เธอนำหนูตะเภาซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงติดตัวไปโรงเรียนประจำโรงเรียนแรกด้วย ที่นั่นเธอได้รับตำแหน่งหัวหน้า “มุมสัตว์เลี้ยง” (Pets’ Corner) ซึ่งโรงเรียนจัดให้เป็นสถานที่ดูแลสัตว์เลี้ยงที่นักเรียนนำมาด้วย ภาพถ่ายโดย (Spen/AL), Camera Press, Redux

สาธารณชนคงไม่คิดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่ดูเหมือนเทพนิยายในตอนแรก จะเริ่มสั่นคลอนและลงเอยด้วยการแยกทางกันหลังเวลาผ่านไปเพียงสิบปี

เจ้าหญิงไดอานาทรงให้สัมภาษณ์ในช่วงเวลาที่อาจเรียกได้ว่า เป็นวิกฤติที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของพระองค์ ทรงเท้าความหลังถึงชีวิตในฐานะสมาชิกราชวงศ์อังกฤษว่า “ตอนนั้นข้าพเจ้าตระหนักว่า ตัวเองต้องรับบทบาทใหญ่หลวง แต่ไม่รู้จริงๆว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง…”

ไดอาน่าต้องมั่นใจว่าตัวเองดูดีอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ตอนกระโดดจากสไลเดอร์ลงสระน้ำที่ Park House ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัว ภาพถ่ายโดย (Spen/AL), Camera Press, Redux
ภาพถ่ายจากอัลบั้มครอบครัวภาพนี้น่าจะถ่ายระหว่างปี 1967-1969 ไดอาน่าโพสท่าเป็นเด็กหญิงสาวสะคราญ เธอดูเป็นธรรมชาติหน้ากล้องเสมอ และมีรสนิยมเรื่องแฟชั่นมาตั้งแต่เด็กๆ ภาพถ่ายโดย (Spen/AL), Camera Press, Redux

หลายวันก่อนพระราชพิธีอภิเษกสมรส เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงฉายพระรูปกับเลดี้ไดอาน่า เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1981 ภาพถ่ายโดย Keystone-France, Getty Images
ภาพถ่ายพระราชพิธีอภิเษกสมรสภายในท้องพระโรงของพระราชวังบักกิงแฮม เลดี้ไดอาน่าซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Princess of Wales) ทรงยืนคู่กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรงกลาง ด้านซ้ายคือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง และ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี (Queen Mother) ส่วนทางขวาคือพระชนกและชนนีของเจ้าหญิงไดอาน่า ได้แก่ ฟรานซิส และเอิร์ล สเปนเซอร์ ภาพถ่ายโดย Lichfield, Getty Images
เพื่อช่วยรณรงค์ในนามขององค์กรการกุศล Halo Trust เจ้าหญิงไดอาน่าทรงพระดำเนินผ่านพื้นที่ที่ยังมีกับระเบิดตกค้าง ในเมือง Huambo ประเทศแองโกลา ต่อหน้าสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 15 มกราคม ปี 1997 ภาพถ่ายโดย Tim Graham, Getty
เจ้าหญิงไดอาน่าประทับฉายพระรูปหน้าทัชมาฮาลในภาพถ่าย “เจ้าหญิงผู้เดียวดาย” หรือ “princess alone” ที่โด่งดังภาพนี้ ในเวลานั้น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงพบปะกับผู้นำธุรกิจในเมืองบังคาลอร์ ซึ่งว่ากันตามจริงก็ไม่เรื่องแปลกประหลาดที่จะมีกำหนดการแยกในการเสด็จเยือนต่างประเทศระดับนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงไดอาน่าผู้ทรงตระหนักดีว่า สื่อมวลชนจะวิเคราะห์ทุกความเคลื่อนไหวของพระองค์ ภาพถ่ายภาพนี้จะส่งแรงกระเพื่อมออกไปไกล และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ สื่อมวลชนทำการบ้านและพบว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เคยเสด็จมาประทับ ณ ม้านั่งตัวเดียวกันนี้เมื่อ 12 ปีก่อน และตรัสว่า “วันหนึ่งข้าพเจ้าจะพาภรรยามาที่นี่” และก็เป็นจริงดังตรัส ทว่าเมื่อถึงเวลานั้น ชีวิตสมรสของทั้งสองพระองค์ก็ใกล้ถึงจุดจบแล้ว ภาพถ่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1992 โดย Tim Graham, Getty Images

 


รำลึกวาระครบ 24 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่าเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1997


ถึงแม้จะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ และแม้เวลาจะผ่านมานานสักเท่าไร หัวใจของผู้คนทั่วโลกก็ยังคงรำลึกถึงเจ้าหญิงผู้เลอโฉมพระองค์นี้ "ไดอาน่า" เจ้าหญิงแห่งเวลส์

#LovePrincessDiana

ที่มา   ::    https://ngthai.com/

https://ukvisaforthai.blogspot.com/2021/08/24.html


“เลดี้ไดอาน่า” แฟชั่นนิสต้า: ผู้ปฏิวัติการแต่งกายของราชวงศ์

 

“เลดี้ไดอาน่า” แฟชั่นนิสต้า: ผู้ปฏิวัติการแต่งกายของราชวงศ์

เจ้าหญิงไดอาน่า แห่งเวลส์ ภาพจาก www.hellomagazine.com


เกือบ 24 ปีกับการจากไปอันนิรันดร์ของ “เลดี้ไดอาน่า” เจ้าหญิงแห่งเวลส์ อดีตพระชายาในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ 31 สิงหาคม 2540 จากวันนั้นถึงวันนี้โลกยังไม่เคยลบลืมภาพความทรงจำอันงดงามที่มีต่อเจ้าหญิงผู้เลอโฉมซึ่งเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์แห่งความสง่างามผู้นี้ไปได้เลย หนึ่งในภาพจำที่ชัดเจนของพระองค์ที่ยังตราตรึงโลกอยู่ถึงทุกวันนี้คือความเป็น “แฟชั่นนิสต้า” ผู้ปฏิวัติวิถีการแต่งกายของราชวงศ์ให้ทันสมัยเป็นที่น่าจับจ้องภายใต้กรอบความเหมาะสมตามกาละเทศะ

เจ้าหญิงไดอาน่า แห่งเวลส์ ใน “ชุดทราโวต้า” ขณะทรงเต้นรำกับ จอห์น ทราโวต้า นักแสดงดังฮอลลีวู้ด ในงานกาล่าดินเนอร์ ทำเนียบขาวสหรํฐ (ภาพจากวิกิพีเดีย)

“เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเป็นไอค่อน เป็นผู้นำแฟชั่น เฉกเช่นเดียวกับ แจ๊กกี้ เคนเนดี้ หรือ ออเดรย์ เฮพเบิร์น สตรีผู้มีความงดงามตลอดกาล” อีเลรี ลินน์ ผู้ดูแลการจัดนิทรรศการ “ไดอาน่า: เรื่องราวแห่งแฟชั่นของพระองค์” ที่พระราชวังเคนซิงตัน ซึ่งเป็นพระตำหนักของเจ้าหญิงไดอาน่าในกรุงลอนดอนอยู่ในขณะนี้

กับจอห์น ทราโวต้า (ภาพจากวิกิพีเดีย)

“Shy Di” หรือ “สาวไดผู้ใสบริสุทธิ์” ชื่อเล่นที่เจ้าหญิงไดอาน่าถูกเรียกขาน ก่อนที่พระองค์จะทรงเสกสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในปี 2524 ขณะพระองค์ทรงมีพระชนมายุเพียง 20 พรรษาเท่านั้น เจ้าหญิงไดอาน่าทรงก้าวออกมาจากเกราะกำบังที่พระองค์ทรงเคยเก็บตัวอยู่มาสู่โลกภายนอก และตระหนักว่าการแต่งกายของพระองค์ที่เป็นที่สนใจของผู้คน กำลังเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับโลกภายนอกที่ทรงพลังมากเพียงใด!!

เอเอฟพี

“โซฟี กู๊ดวิน” บรรณาธิการแฟชั่นของ “แทตเลอร์ แมกกาซีน” บอกกับนิวเยอร์กไทม์สก่อนหน้านี้ว่า “เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเรียนรู้ที่จะทำให้เสื้อผ้าของพระองค์ทำหน้าที่สื่อสารในสิ่งที่พระองค์ทรงไม่อาจสื่อสารได้ และพระองค์ยังทรงงานกับดีไซเนอร์อย่างใกล้ชิด เช่น แคเธอรีน วอล์กเกอร์ ในการสื่อถึงบุคลิกเฉพาะตัวของพระองค์ออกมาผ่านชุดเสื้อผ้าเหล่านั้น”

เอเอฟพี

การแต่งกายเป็นศิลปะที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงดูแลด้วยพระองค์เองอย่างพิถีพิถันด้วยชุดที่เหมาะสมและเหมาะแก่กาละเทศะ พระองค์จะทรงเลือกสวมชุดสีโทนสว่าง หากพระองค์เสด็จปฏิบัติภารกิจในการเยี่ยมเยียนสถานดูแลผู้ป่วย เนื่องจากสีโทนสว่างจะให้ถึงความรู้สึกอบอุ่นและเข้าถึงพระองค์ได้อย่างง่ายๆ สำหรับผู้ที่พบเห็น

เอเอฟพี

ขณะการเสด็จเยือนต่างประเทศ เจ้าหญิงไดอาน่าจะทรงเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่เป็นสีธงชาติของประเทศที่พระองค์จะเสด็จเยือน เป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสาร เช่นการเสด็จเยือนญี่ปุ่นในปี 2529 เจ้าหญิงไดอาน่าทรงสวมชุดฉลองพระองค์สีขาวลายจุดแดง

“พระองค์ทรงเลือกที่จะไม่สวมฉลองพระหัตถ์(ถุงมือ) เพราะพระองค์ทรงต้องการที่จะสัมผัสประชาชนที่พระองค์ได้พบปะจริงๆ” ลินน์กล่าว

เอเอฟพี

หลายภาพที่ปรากฏสู่สาธารณะขณะเจ้าหญิงไดอาน่าทรงใช้พระหัตถ์จับมือผู้ป่วยโรคเอดส์อย่างไม่ถือพระองค์ในปี 2530 ได้ทลายกำแพงความเชื่อในแง่ลบที่มีต่อโรคเอดส์ ที่ถือเป็นโรคติดต่อร้ายแรงซึ่งผู้คนหวาดกลัวกันมากในห้วงเวลานั้นไปสิ้น โดยเฉพาะความกลัวอย่างผิดๆว่าโรคนี้จะติดต่อกันจากการสัมผัสเนื้อตัว

เอเอฟพี

เจ้าหญิงไดอาน่า ทรงเป็นผู้หญิงที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในบรรดาผู้หญิงวัยเดียวกันในยุคนั้น พระองค์ทรงตระหนักถึงระเบียบการแต่งกายตามราชประเพณีปฏิบัติของราชวงศ์เป็นอย่างดี ทว่าขณะเดียวกันพระองค์ก็ไม่หวั่นที่จะมีการจับแต่งพลิกแพลงนอกกรอบไปบ้าง การทรงเลือกสวมชุดทรงบอลกาวน์สีดำใส่ในงานทั่วไปของเจ้าหญิงไดอานา เป็นการแหวกธรรมเนียมของราชวงศ์ที่หญิงราชนิกูลจะสวมใส่สีดำเฉพาะช่วงเวลาการไว้ทุกข์เท่านั้น เสื้อผ้าที่เป็นยูนิเซ็กเช่น ชุดทักซิโด้ ผูกหูกระต่ายเท่ห์ๆ เป็นหนึ่งในชุดที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเลือกสวมใส่ ที่ลินน์บอกว่า “นั่นเป็นลุคห้าวๆ และดูสนุกเลยทีเดียว ที่คุณไม่จำเป็นต้องคาดหวังจากเจ้าหญิง พระองค์ยังทรงเป็นราชนิกูลหญิงพระองค์แรกในราชวงศ์ที่ทรงสวมกางเกงขายาวเสด็จออกงานตอนค่ำ”

เอเอฟพี

ชุดฉลองพระองค์ราตรียาวกำมะหยี่สีมิดไนท์บลู ของ”วิกเตอร์ อีเดลสไตน์” ดีไซเนอร์ดัง ซึ่งเจ้าหญิงไดอาน่าทรงสวมใส่ในระหว่างเสด็จร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ทำเนียบขาวสหรัฐในปี 2528 เป็นหนึ่งในชุดที่สร้างความฮือฮา ผู้คนโจษจันมากที่สุดชุดหนึ่งของเจ้าหญิงไดอาน่า ชุดนี้ยังถูกเรียกขานว่า “ชุดทราโวต้า” เนื่องจากเจ้าหญิงไดอาน่าที่ทรงสวมชุดนี้ ทรงได้เต้นรำกับ “จอห์น ทราโวต้า” นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง ในเพลงฮิต “You Sould Be Dancing” จากภาพยนตร์เรื่อง “Saturday Night Fever” ที่ทราโวต้าแสดงนำ ก่อนที่ชุดฉลองพระองค์นี้จะถูกนำไปประมูลในปี 2556 มีราคาสูงถึง 318,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10.81 ล้านบาท

หลังการหย่าร้างของเจ้าหญิงไดอาน่า กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ในปี 2539 เจ้าหญิงไดอาน่าทรงพลิกโฉมการแต่งตัวใหม่ของพระองค์ในทันที จากเดิมที่นิยมใช้เสื้อผ้าของดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ พระองค์หันมาใช้แบรนด์ห้องเสื้อหรูระดับโลกอย่าง ดิออร์, ลาครัวซ์ และ ชาแนล

 WireImage

“หลายปีที่ผ่านมา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงเป็นหนึ่งในบุคคลที่ครอบงำวงการแฟชั่นโลกและเป็นผู้นำแถวหน้าของมนต์เสน่ห์แห่งความทันสมัยอย่างที่เรารู้กัน ซึ่งพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างขึ้นด้วยพระองค์เอง” ซาร่าห์ มาวเออร์ จากเดลีเมล กล่าวถึงความเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวจริงของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ที่ผู้หญิงจำนวนมากนำเอาไปเป็นแบบอย่างในการแต่งตัว

และจนถึงวันนี้ “สไตล์” ของเลดี้ไดอาน่า ยังคงเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ผลงานบนแคตวอล์กของเหล่าดีไซเนอร์ในวงการแฟชั่นต่อไป

เจ้าหญิงไดอาน่า กับสองพระโอรส เจ้าชายวิลเลียม(ขวาสุด) และ เจ้าชายแฮร์รี ขณะเสด็จออกงานในกรุงลอนดอน ในปี 2538 (เอเอฟพี)

CR  ::    https://www.matichon.co.th/foreign/news_631017

https://ukvisaforthai.blogspot.com/2021/08/blog-post_31.html




การทำ SEO คืออะไร

    การทำ SEO คืออะไร การทำ SEO คืออะไร เรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียตังค์ "SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้...